Social Dimensions

Human Rights

การบริหารจัดการด้านสิทธิมนุษยชน

นโยบายและแนวทางปฏิบัติ

นอกจากนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจของ กฟภ. ได้รับการประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนในทุกกิจกรรมของการดำเนินงานอย่างเป็นประจำและต่อเนื่อง คณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนมีหน้าที่ต้องรายงานต่อคณะกรรมการธรรมาภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเปิดเผยรายงานดังกล่าวในรายงานความยั่งยืนประจำปี (Sustainability Report) เป็นประจำทุกปี

ทรัพยากรบุคคล

คนเอามือปกป้องหุ่นคนที่เป็นไม้เล็ก ๆ

การสื่อสาร

พนักงาน
เพื่อช่วยให้มั่นใจว่าพนักงานได้รับทราบและเข้าใจถึงแนวทางปฏิบัติตามนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนขององค์กร คณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนจะบรรจุนโยบาย แนวทางปฏิบัติ รวมทั้งข้อมูลล่าสุดที่ปรับปรุงแก้ไขไว้บนเว็บไซต์ของ กฟภ. ทั้งนี้คณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนจะแจ้งพนักงานทราบหากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่สำคัญ
ผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจของ กฟภ. ตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Business Value Chain)
คณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนจะสื่อสาร เผยแพร่ และให้การสนับสนุนอื่นใดแก่ผู้เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจของ กฟภ. ตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Business Value Chain) ได้แก่ บริษัทในเครือ ตัวแทน ตัวกลางทางธุรกิจ ผู้ส่งมอบสินค้าและบริการ (Supplier) คู่ค้า (Contractor) คู่ความร่วมมือ (Business Partners) และผู้ร่วมธุรกิจ (Joint Venture) เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดังกล่าวมีส่วนร่วมในการดำเนินธุรกิจอย่างมีคุณธรรม เคารพและปฏิบัติต่อทุกคนตามหลักสิทธิมนุษยชนตามแนวทางปฏิบัติฯฉบับนี้ ตั้งแต่เริ่มต้นความสัมพันธ์ทางธุรกิจและในภายหลังตามความเหมาะสม โดยยึดมั่นในมาตรฐานการรับผิดชอบต่อสังคมเช่นเดียวกับ กฟภ.
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ กฟภ.
คณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนจะสื่อสาร เผยแพร่ และให้การสนับสนุนเพื่อให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร ได้รับทราบนโยบายและแนวทางปฏิบัติตามนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนของ กฟภ.
กรณีมีข้อสงสัย
หากพนักงานเกิดความไม่มั่นใจว่าการกระทำใด อาจเป็นลักษณะที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับองค์กร หรือในกรณีที่มีคำถามหรือข้อสงสัย พนักงานควรปรึกษากับผู้บังคับบัญชาโดยตรงหรือคณะทำงานด้านสิทธิมนุษยชนทันที
การรายงานการพบเห็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
หากพนักงานมีข้อสงสัยหรือมีหลักฐานว่ามีพนักงานหรือบุคคลซึ่งกระทำการในนามองค์กร ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับ กฟภ. จะต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบหรือรายงานผ่านช่องทางการรายงานตามคู่มือการกำกับดูแลกิจการที่ดีและแนวทางการปฏิบัติของ กฟภ. โดยทันที และเมื่อองค์กรได้รับรายงานแล้ว จะต้องดำเนินการอย่างจริงจัง
การปกป้องดูแลพนักงาน
กฟภ. ให้ความมั่นใจกับพนักงานว่าจะไม่มีพนักงานคนใดต้องถูดลดตำแหน่ง ลงโทษ หรือได้รับผลกระทบใดๆ จากการแจ้งเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับการถูกข่มเหง การถูกเลือกปฏิบัติ การถูกละเมิดสิทธิ หรือตกเป็นเหยื่อ มีสิทธิร้องปัญหาตามกระบวนการและช่องทางรายงานตามคู่มือการกำกับดูแลกิจการที่ดีและแนวทางการปฏิบัติของ กฟภ. แนวทางการให้ข้อมูลการกระทำผิดและการทุจริต การสอบสวน และการคุ้มครองข้อมูลขององค์กร
การฝ่าฝืนนโยบาย
การกำกับติดตามและสอบทาน
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

Development and Maintenance of Human Resources

บุคลากรถือเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กร PEA จึงมุ่งมั่นดูแลพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ โดยให้ความสำคัญตั้งแต่กระบวนการวางแผนกำลังคน และการสรรหาคัดเลือกบุคลากรด้วยความเท่าเทียม โปร่งใส ซึ่งจะเน้นการเฟ้นหาบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ มีความมุ่งมั่น และมีศักยภาพในการขับเคลื่อนองค์กรไปสู่ความยั่งยืน นอกจากการสรรหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถแล้วนั้น การบริหารค่าตอบแทนและการรักษาพนักงานก็เป็นสิ่งที่ PEA ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยจะทำการตรวจสอบและการประเมินความเสี่ยงในหน่วยงาน ในลักษณะการบังคับใช้แรงงาน แรงงานเด็ก แรงงานผิดกฎหมาย การกีดกันทางเพศ ฯลฯ รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเอื้อต่อ การมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและความคาดหวังของพนักงานทุกคน เพื่อให้พนักงาน มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานจวบจนเกษียณอายุงาน และยกระดับความพึงพอใจและความผูกพันของบุคลากรให้มีผลกระทบต่อสังคมในภาพรวม
โดย PEA เชื่อมั่นว่าหากพนักงานและลูกจ้างมีความสุขที่ได้ทำงานให้กับองค์กรจะส่งผลทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มสูงขึ้น ในขณะเดียวกันองค์กรจะสามารถทำให้บุคลากรอยากอยู่กับองค์กรมากขึ้นและสามารถสร้างผลกำไรให้กับองค์กรได้สูงขึ้น ซึ่งทำให้ลูกค้าได้รับคุณภาพและการบริการที่ดีเยี่ยมและสนับสนุนการเติบโตและพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน

การบริหารจัดการด้านการดูแลบุคลากรอย่างเท่าเทียม

0%

มีพนักงานที่ได้รับการดูแลภายใต้ข้อตกลงจากสหภาพแรงงานฯ ร้อยละ 100 ของจำนวนพนักงานทั้งหมด
แผนภาพการบริหารจัดการด้านการดูแลบุคลากรอย่างเท่าเทียม
ในการบริหารจัดการการดูแลบุคลากร PEA จะประเมินความผูกพันของบุคลากรที่มีต่อองค์กร โดยมีวิธีการดำเนินการดังนี้
แผนภาพประเมินความผูกพันของบุคลากรที่มีต่อองค์กร

ผลการดำเนินด้านการดูแลบุคลากรอย่างเท่าเทียม

0%

การจ้างงานคนพิการต่อพนักงานทั้งหมดร้อยละ 0.8
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

Occupational Health and Safety

นอกจากความมุ่งมั่นในการดูแลพนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมและไม่เลือกปฏิบัติแล้ว PEA มุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานของพนักงาน (Cultivate a Motivating Workplace Environment) เนื่องจากการปฏิบัติงานในระบบไฟฟ้าของ PEA ที่ผ่านมามีการประสบอุบัติเหตุจากการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้าช็อก ตกจากที่สูง รวมถึงการใช้ยานพาหนะขณะปฏิบัติงาน ฯลฯ และส่งผลกระทบต่อการสูญเสียบุคลากรในการปฏิบัติงาน ดังนั้น PEA จึงมุ่งมั่นลดสาเหตุที่ทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยทั้งจากสุขภาพและบริบทแวดล้อมอันส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของพนักงาน ให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของ ผู้ที่ปฏิบัติงาน โดยถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การดำเนินงานของ PEA ขับเคลื่อนไปได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ PEA จัดให้มีและพัฒนาการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงานของพนักงานให้มีความครอบคลุมและปลอดภัยที่สุดทั้งในเรื่องของกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และยุทธศาสตร์ของหน่วยงานสนับสนุนด้านความปลอดภัยของประเทศไทย และมาตรฐานการดำเนินงานด้านความปลอดภัยระดับสากล พร้อมทั้งมีแผนแม่บทความปลอดภัยและอาชีวอนามัย เพื่อติดตามและประเมินผลการดำเนินงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย
เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าสี่คนกำลังร่วมกันทำงานอย่างระมัดระวัง สวมหมวกนิรภัยและใส่ถุงมือ

การบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน

PEA ถ่ายทอดยุทธศาสตร์ด้านความปลอดภัยไปสู่การปฏิบัติ โดยได้จัดทำเป็นแผนการดำเนินงาน (Action Plan) เพื่อรองรับเป้าหมายในการดำเนินงานของแต่ละยุทธศาสตร์ โดยมีการกำหนดผู้รับผิดชอบ เป้าหมาย และระยะเวลาในการดำเนินงานในแต่ละกิจกรรมอย่างครบถ้วน ตามแผนแม่บทความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พ.ศ. 2563 – 2567 (ทบทวนครั้งที่ 2 พ.ศ. 2565) พร้อมทั้งพัฒนาระบบการจัดการความปลอดภัยของ PEA (PEA Safety Management System: PEA-SMS) สอดคล้องกับพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 เพื่อขอการรับรองระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (TIS 18001/BS OHSAS 18001) และดูแลป้องกันอุบัติเหตุครอบคลุมตั้งแต่พนักงาน ผู้รับเหมา และประชาชน

กระบวนการจัดการความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและความเจ็บป่วยจากการทำงาน

PEA จัดการความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและความเจ็บป่วยจากการทำงาน โดยใช้ระบบ การจัดการความปลอดภัยของ PEA (PEA Safety Management System : PEA-SMS) พร้อมทั้งจัดทำแบบฟอร์มรายงานผลการประเมินความเสี่ยงฉุกเฉิน ประจำปี ในการประเมินและวัดระดับความเสี่ยงเป็นขั้นตอนที่ช่วยในการจัดลำดับความเสี่ยง โดยเรียงลำดับความเสี่ยงสูงสุดไปจนถึงความเสี่ยงต่ำสุด การประเมินระดับความเสี่ยงจะอาศัยพื้นฐานในการพิจารณาความสัมพันธ์ของความรุนแรง และโอกาสที่จะเกิด ตามหลักเกณฑ์การประเมินความเสี่ยงที่ได้ตกลงร่วมกัน และสามารถคำนวณได้จากระดับความเสี่ยง = โอกาสที่จะเกิด x ความรุนแรง โดยอาศัยพื้นฐานในการพิจารณา ดังนี้
ระดับความรุนแรงรายละเอียด
1น้อยไม่หยุดงาน หรือทรัพย์สินเกิดความเสียหายมีมูลค่าน้อยกว่า 50,000 บาท
2ปานกลางหยุดงานไม่เกิน 3 วัน หรือทรัพย์สินเกิดความเสียหายมีมูลค่าตั้งแต่ 50,000 - 250,000 บาท
3มากหยุดงานเกิน 3 วัน หรือทรัพย์สินเกิดความเสียหายมีมูลค่าตั้งแต่ 250,000 - 500,000 บาท
4มากที่สุดสูญเสียอวัยวะ/ทุพพลภาพ/เสียชีวิต หรือทรัพย์สินเกิดความเสียหายมีมูลค่าเกินกว่า 500,000 บาท
PEA จัดการความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและความเจ็บการจัดลำดับความเสี่ยงมีการกำหนดเงื่อนไขที่ใช้ในการจัดลำดับความเสี่ยงและจัดลำดับความเสี่ยง จากมากไปหาน้อย เพื่อใช้ประโยชน์ในการพิจารณาเลือกเหตุฉุกเฉินที่สำคัญเพื่อจัดทำแผนตอบโต้ต่อภาวะฉุกเฉิน โดยแบ่งระดับความเสี่ยง ออกเป็น 5 ระดับ ดังนี้ วยจากการทำงาน โดยใช้ระบบ การจัดการความปลอดภัยของ PEA (PEA Safety Management System : PEA-SMS) พร้อมทั้งจัดทำแบบฟอร์มรายงานผลการประเมินความเสี่ยงฉุกเฉิน ประจำปี ในการประเมินและวัดระดับความเสี่ยงเป็นขั้นตอนที่ช่วยในการจัดลำดับความเสี่ยง โดยเรียงลำดับความเสี่ยงสูงสุดไปจนถึงความเสี่ยงต่ำสุด การประเมินระดับความเสี่ยงจะอาศัยพื้นฐานในการพิจารณาความสัมพันธ์ของความรุนแรง และโอกาสที่จะเกิด ตามหลักเกณฑ์การประเมินความเสี่ยงที่ได้ตกลงร่วมกัน และสามารถคำนวณได้จากระดับความเสี่ยง = โอกาสที่จะเกิด x ความรุนแรง โดยอาศัยพื้นฐานในการพิจารณา ดังนี้
ระดับจัดเป็นระดับความเสี่ยง
1เล็กน้อย
2ยอมรับได้
3-4ปานกลาง
6-9สูง
12ไม่อาจยอมรับได้
โอกาสที่จะเกิดเหตุฉุกเฉินน้อยปานกลางมาก
ความรุนแรงของเหตุฉุกเฉิน(1)(2)(3)
น้อย (1)เล็กน้อย (1)ยอมรับได้ (2)ปานกลาง (3)
ปานกลาง (2)ยอมรับได้ (2)ปานกลาง (4)สูง (6)
มาก (3)ปานกลาง (3)สูง (6)สูง (6)
มากที่สุด (4)ปานกลาง (4)สูง (8)ไม่อาจยอมรับได้ (12)
การแบ่งระดับความเสี่ยงดังกล่าวข้างต้น ใช้เป็นพื้นฐานในการตัดสินใจว่าต้องมีการจัดการความเสี่ยง หรือการกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันคือ การกำจัดโอกาสที่จะเกิด หรือลดโอกาสที่จะเกิด หรือลดความรุนแรง หรือลดทั้ง 2 องค์ประกอบ รวมถึงการพิจารณากำหนดเวลาที่ใช้ในการปฏิบัติการควบคุมป้องกัน ซึ่งจะสัมพันธ์โดยตรงกับความเสี่ยงดังตาราง
ระดับความเสี่ยงการปฏิบัติและเวลาที่ใช้การจัดการความเสี่ยง
ไม่อาจยอมรับได้งานจะเริ่มหรือทำต่อไปไม่ได้จนกว่าจะลดความเสี่ยงลง ถ้าไม่สามารถลดความเสี่ยงลงได้ถึงแม้จะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ตามจะต้องหยุดการทำงานนั้นทันทีReduceองค์กรต้องหามาตรการควบคุมความเสี่ยงอย่างเหมาะสม โดยมุ่งเน้นไปที่การลดโอกาสเกิดขึ้นเป็นหลัก และแผนการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน เพื่อรับมือต่อเหตุการณ์ความเสี่ยง
สูงต้องลดความเสี่ยงลงก่อนจึงจะเริ่มทำงานได้ต้องจัดสรรทรัพยากรและมาตรการให้เพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงนั้น เมื่อมีความเสี่ยงเกี่ยวข้องกับงานที่กำลังทำอยู่ จะต้องหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนPlanองค์กรต้องจัดทำแผนการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน และดำเนินการ ฝึกซ้อมแผน
ปานกลางจะต้องใช้ความพยายามที่จะลดความเสี่ยงแต่ค่าใช้จ่ายของการป้องกันควรจะมีการพิจารณาอย่างรอบคอบและมีการจำกัดงบประมาณ จะต้องมีมาตรการลดความเสี่ยงภายในเวลาที่กำหนด เมื่อความเสี่ยงระดับปานกลางมีความสัมพันธ์กับการเกิดความเสียหายร้ายแรง ควรทำการประเมินเพิ่มเติม เพื่อหาค่าของความน่าจะเป็นของความเสียหายที่แม่นยำขึ้น เพื่อเป็นหลักในการตัดสินความจำเป็นสำหรับมาตรการควบคุมว่าต้องมีการปรับปรุงหรือไม่Controlองค์กรต้องหามาตรการควบคุมความเสี่ยงอย่างเหมาะสม หรือในกรณีที่มีมาตรการควบคุมอยู่แล้วให้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมนั้นอย่างสม่ำเสมอ โดยมุ่งเน้นไปที่การลดโอกาสเกิดขึ้นเป็นหลัก
ยอมรับได้ไม่ต้องมีการควบคุมเพิ่มเติม การพิจารณาความเสี่ยงอาจจะทำเมื่อเห็นว่าคุ้มค่า หรือการปรับปรุงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น การติดตามตรวจสอบยังคงต้องทำเพื่อให้แน่ใจว่าการควบคุมยังคงมีอยู่Acceptองค์กรสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ หรือในกรณีที่มีมาตรการควบคุมอยู่แล้วให้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมนั้นอย่างสม่ำเสมอ
เล็กน้อยไม่ต้องดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมNone
นอกจากนี้ได้มีการกำหนดลักษณะการประสบอันตรายที่สามารถเกิดขึ้นจากกระบวนการทำงาน และก่อให้เกิดการบาดเจ็บจากการทำงานที่มีผลกระทบสูง เช่น ไฟฟ้าช็อก, วัสดุ สิ่งของกระแทกยานพาหนะ, ตกจากที่สูง, เบิร์น, หกล้ม ลื่นล้ม, สิ่งก่อสร้างพังทลาย, วัตถุพังทลาย/หล่นทับ, วัตถุตัด/บาด/แทง, วัตถุหนีบ/ดึง และสารเคมี/สัตว์มีพิษ เพื่อนำการประสบอันตรายดังกล่าวมาศึกษา/ทบทวนและกำหนดมาตรการควบคุมความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
ปัจจุบัน PEA ดำเนินการวิเคราะห์ความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดความเจ็บป่วยจากการทำงาน ซึ่งผล การวิเคราะห์พบความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีในกองสนับสนุนงานองค์กรซึ่งมีหน้าที่ ทั้งนี้ PEA ได้ดำเนินการตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับระบบการจัดการด้านความปลอดภัย พ.ศ. 2565 ในการให้พนักงานที่มีความเสี่ยงดังกล่าว ทำการสุขภาพตามกฎหมาย และแนวปฏิบัติของ PEA อย่างเคร่งครัด และในปี 2565 ไม่พบผลที่ผิดปกติที่อาจก่อให้เกิดความเจ็บป่วยจากการทำงาน ทั้งนี้ PEA ไม่มีพนักงาน และผู้รับเหมาเจ็บป่วยจากการทำงานในปีที่รายงาน
โครงสร้างคณะทำงานพิจารณาจัดทำระบบกำกับกระบวนการทำงานตามกฎหมาย ระเบียบ วิธีปฏิบัติตามด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยที่เกี่ยวข้องกับ พนักงาน คู่ค้า ผู้รับจ้าง และผู้รับเหมา หรือ กรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน สำนักงานใหญ่ (403-4)
แผนภาพโครงสร้างคณะทำงานด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย
PEA ยังมีวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย โดยมี Safety Talk ก่อนการเริ่มทำงานทุกสัปดาห์ และ ยังนำระบบฝึกอบรมความปลอดภัย KYT มาใช้ในการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานของพนักงาน ควบคู่ไปด้วย โดย KYT เป็นวิธีการวิเคราะห์หรือคาดการณ์ถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงาน พร้อมทั้งกำหนดมาตรการหรือวิธีการจัดการอันตรายเหล่านั้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัย นอกจากนี้ยังดำเนินการ จัดอบรมและพัฒนาหลักสูตรเพื่อส่งเสริมความปลอดภัย พร้อมติดตามและวัดผล เพื่อนำมาปรับปรุงการอบรมอย่างต่อเนื่อง
ระบบฝึกอบรมความปลอดภัย KYT

การสื่อสารกับพนักงานในการประชุมเพื่อขับเคลื่อนการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย (403-4)

พนักงาน

ช่องทางการสื่อสารความถี่ในการสื่อสารผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ประชุมรายงานค่าดัชนีการประสบอุบัติภัยฯ (√DI)ไตรมาสละ 1 ครั้งแผนกความปลอดภัยของการไฟฟ้าเขต
ประชุมคณะอนุกรรมการความปลอดภัยอย่างน้อย ไตรมาสละ 1 ครั้งผู้ช่วยผู้ว่าการสายงานบริหารองค์กรเป็นประธาน
ประชุมคณะกรรมการป้องกันอุบัติภัยไตรมาสละ 1 ครั้งผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นประธาน โดยมีรองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ ผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 12 เขต รวมถึงฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นคณะกรรมการ
ประชุมคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.)เดือนละ 1 ครั้ง
1) สำนักงานใหญ่มีรองผู้ว่าการสายงานบริหารองค์กรเป็นประธาน
2) ส่วนภูมิภาคมีผู้ช่วยผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขตเป็นประธาน
3) ส่วนสำนักงานการไฟฟ้าผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นประธาน
โดย 1) – 3) มอบหมายเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพเป็นเลขานุการ

ผู้รับเหมา

ช่องทางการสื่อสารความถี่ในการสื่อสารผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
การฝึกซ้อมสร้างความตระหนักเพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการปฏิบัติงานเดือนละ 4 งานเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพ

ผลการดำเนินงานด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน (3-3)

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

Customer Health and Safety

จากการมีผู้ใช้ไฟฟ้าประสบอันตรายจากการใช้ไฟฟ้าขององค์กรในอดีต PEAตระหนักถึง ความปลอดภัยของผู้ใช้ไฟฟ้าว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จึงมุ่งเน้นการดำเนินการในระบบไฟฟ้าของ PEA โดยจะต้องมีความปลอดภัย มั่นคง มีเสถียรภาพที่ดี ไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อการใช้งานและต่อระบบไฟฟ้า PEA ได้ดำเนินการสำรวจ ปรับปรุง และบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวข้องในด้านความปลอดภัยของประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้า ได้แก่ ข้อมูลผลกระทบความไม่ปลอดภัยจากระบบไฟฟ้าของ PEA ต่อผู้ใช้ไฟฟ้า เช่น เสาไฟฟ้าหัก เสาไฟฟ้าล้ม สายไฟฟ้าพาดผ่านอาคาร สายไฟฟ้าขาด อุปกรณ์ไฟฟ้าระเบิด และการลัดวงจรในระบบ เพื่อใช้เป็นข้อมูล ในการปรับปรุงและแก้ไขระบบ PEA ยังได้มีการกำหนดมาตรฐานเพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับประชาชน เช่น มาตรฐานระยะห่างปลอดภัยในระบบไฟฟ้า รวมถึงการให้ความรู้กับผู้ใช้ไฟฟ้าในโครงการต่าง ๆ ของ PEA เช่น โครงการชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA ในแต่ละเขต เพื่อให้ความรู้และคำแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัยในระบบไฟฟ้าของ PEA ความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้า รวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ อย่างไรก็ตามหากเกิดอุบัติเหตุ จากระบบไฟฟ้า PEA ได้กำหนดแนวทางในการประเมินการเยียวยาแก่ผู้ได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุดังกล่าว รวมทั้งนำความเสี่ยงจากกรณีอุบัติเหตุนั้น ๆ มาปรับปรุงให้มีความปลอดภัยในระบบไฟฟ้าต่อการใช้งาน เพื่อส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้าและชุมชนในพื้นที่ความรับผิดชอบยิ่งขึ้น

การบริหารจัดการด้านการคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้า

การบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของผู้ใช้ไฟฟ้า PEA มีแนวทางการปฏิบัติ ดังนี้

แผนการดำเนินงานในการบริหารจัดการความปลอดภัยของผู้ใช้ไฟฟ้า

แผนภาพการดำเนินงานในการบริหารจัดการความปลอดภัยของผู้ใช้ไฟฟ้า

แผนการดำเนินงานในตามกรณีอุบัติเหตุ

แผนภาพการดำเนินงานในตามกรณีอุบัติเหตุ

ผลการดำเนินงานด้านการคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้า

การไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับและ/หรือหลักปฏิบัติโดยสมัครใจเกี่ยวกับผลกระทบด้านสุขภาพและความปลอดภัย
ของผลิตภัณฑ์และบริการภายในรอบระยะเวลารายงานจากระบบไฟฟ้าในปี 2565 (2-27 และ 416-2)
0

เหตุการณ์

จำนวนเหตุการณ์ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบส่งผลให้มีโทษปรับ 16 เหตุการณ์
0

เหตุการณ์

จำนวนเหตุการณ์ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ส่งผลให้มีการตักเตือน 2 เหตุการณ์
0

บาท

ค่าใช้จ่ายในการชดเชย และค่ามนุษยธรรมทั้งหมด เท่ากับ 1,755,000 บาท
หมายเหตุ: ไม่มีการละเมิดมาตรฐานภาคสมัครใจในปีที่รายงาน
โดยตัวอย่างเหตุการณ์ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบส่งผลให้มีโทษปรับ เช่น นายจ้างให้ลูกจ้างซึ่งปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้าเข้าใกล้หรือนำสิ่งที่เป็นตัวนำไฟฟ้าที่ไม่มีที่ถือหุ้มด้วยฉนวนไฟฟ้าที่เหมาะสมกับแรงดันไฟฟ้าเข้าใกล้สิ่งที่มีกระแสไฟฟ้าในระยะที่น้อยกว่าระยะห่างตามมาตรฐาน โดยผิดตามพระราชบัญญัติ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 มาตรา 8 ให้นายจ้างบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ให้เป็นไป ตามมาตรฐานที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว PEA มีโทษปรับเป็นจำนวนเงิน 400,000.- บาท
ค่าผลกระทบความไม่ปลอดภัย
0
ค่าผลกระทบความไม่ปลอดภัย
มีค่าเท่ากับ 0.0039
สายไฟฟ้าขาด 5 ครั้ง
อุปกรณ์ไฟฟ้าระเบิด 2 ครั้ง
การลัดวงจรในระบบไฟฟ้า 1 ครั้ง

0%

อยู่ในระดับ 5 คิดเป็นร้อยละ 14.88% ของค่าเกณฑ์วัดระดับ 5
โครงการชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA
ประชาชนและพนักงาน PEA เข้าร่วมรับฟัง ในโครงการ ชุมชนปลอดภัยใช้ไฟ PEA
0
มีผู้เข้าร่วมรับฟังในรูปแบบออนไลน์ 932 คน
0
มีผู้เข้าร่วมรับฟังในรูปแบบ Onsite 400 คน
การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
Scroll to Top